วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ ของลูกอม ^o^

หลายคนอาจจะมองว่าวัตถุให้ความหวานก้อนเล็กๆสีสันสดใส ที่มีชื่อเรียกว่า"ลูกอม" ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรแต่หากดูจากผลวิจัยต่อไปนี้คุณคงจะต้องเปลี่ยนความคิดเลย แหละค่ะ โดยผลวิจัยนี้ เป็นการทำวิจัยของ ดร.แครอล โอนีล ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ จากมหาวิทยาลัยรัฐหลุยเซียน่า สหรัฐอเมริกา ทำวิจัยเด็กชายหญิงวัย 2-18 ปี จำนวนกว่า 1 หมื่นคน เป็นเวลานาน 5 ปี ปรากฏว่า เด็กๆ ที่ชอบกินลูกอม ลูกกวาด อมยิ้ม และขนมหวานในลักษณะเดียวกันนี้ จะมีความเสี่ยงต่อโรคอ้วนน้อยกว่าเด็กที่ไม่ชอบกิน ถึงร้อยละ 22 และยังมีแนวโน้มรูปร่างผอมเพรียวกว่าเด็กทั่วไปมากถึงร้อยละ 26 เพราะเมื่อเด็กๆ ได้รับลูกกวาดในปริมาณที่เหมาะสม พวกเขาจะเรียนรู้วินัยการกิน ไปพร้อมๆ กับการอดออมรางวัลรสหวานแสนอร่อย ไว้กินในโอกาสพิเศษเท่านั้น เด็กๆ จึงคุ้นเคยกับการควบคุมอาหารนั่นเอง

แต่ทั้งนี้เราทุกคน ก็ควรที่จะกินลูกอมอย่างพอเหมาะ เพราะอย่างไรแล้วลูกกวาดก็ผลิตมาจากน้ำตาล ยิ่งกินมากก็ยิ่งเสี่ยงฟันผุได้ง่ายๆ แน่นอน^^

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ลูกอมทายนิสัยได้นะ (>_<)


มันเป็นเหมือนความเชื่อ หลักการ หรือ อะไรซักอย่าง ในเรื่องการทานลูกอม ใครจะไปรู้ว่า รสของลูกอมที่เราเลือกทานกันนั้น สามารถบอกถึงนิสัยของคนที่ทานได้ด้วย เราลองมาดูกันซิว่าคนสนิทชิดใกล้ข้างกายของเราเป็นคนแบบไหนมองโลกในแง่ดีหรือมองโลกในแง่ร้าย
โดยการทายนิสัยจากรสผลไม้ของลูกอมที่เขาและคุณชื่นชอบ
  • รสสตรอเบอรี่บอกเลยว่าคุณเป็นคนคุยสนุกอารมณ์ขันและเป็นที่ต้องการของเพื่อนเมื่อจะพูดหรือทำอะไรก็ต้องมีคนดูคนฟังและค่อนข้างมีรสนิยม
  • รสส้มเป็นคนที่ทันสมัยหัวก้าวหน้าแต่มีนิสัยหึงหวงเพศตรงข้ามประหยัดใช้จ่าย
  • รสองุ่นมีมนุษย์สัมพันธ์ดีเข้ากับคนง่ายร่าเริงสุขุมแต่ปากกับใจไม่ตรงกันซื่อสัตย์
  • รสสับปะรดเป็นคนที่ชอบแคร์คนอื่นมากเกินไปจนลืมสนใจตัวเองบางครั้งมัวแต่เอาใจคนอื่นจนทำให้เขารำคาญ
  • รสแอปเปิ้ลเป็นผลไม้สำหรับคนขี้เหงาขาดเพื่อนไม่ได้ไม่ค่อยแคร์เรื่องความรักแต่จะขาดทุนเรื่องการทำงาน
  • รสลิ้นจี่เป็นคนชอบทำงานเบาๆแต่มีความรับผิดชอบในการทำงานเป็นอย่างดี
  • รสบ๊วยร่าเริงแจ่มใสสนุกสนานแต่ลึกๆเป็นคนละเอียดอ่อนง่ายๆสบายๆแต่ชอบให้คำปรึกษาผู้อื่นเสมอ
  • รสมะนาวเหมาะกับสาวเปรี้ยวมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามและเจ้าชู้นิดๆชอบความท้าทายแต่ก็แอบหวานบ้างในบางครั้ง
  • รสสละชอบช่วยเหลือคนอื่นขี้เกรงใจและมีความอดทนสูงโอบอ้อมอารียิ้มได้ในทุกสถานการณ์
  • รสบลูเบอรี่เป็นคนที่หวานข้างนอกแต่จริงแล้วในใจแข็งอ่อนไหวต่อคำพูดของคนรอบข้างรักสงบจิตใจดี
  • รสเมลอนใจกว้างอ่อนโยนมีน้ำใจกับมิตรสหายชอบอะไรง่ายๆมองโลกในแง่ดีแต่มักแพ้ภัยเพศตรงข้าม
  • รสกล้วยเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีภายนอกแข็งแกร่งแต่จริงแล้วอ่อนไหวง่ายรักสันโดษชอบทำบุญถ้ามีโอกาส
  • รสมะขาม อุดมการณ์ มีความคิดเป็นของตัวเองและคิดว่าผู้อื่นจะต้องกระทำตามที่ตนคิด เอาการเอางานและมีความรับผิดชอบสูง
ตรงไม่ตรงก็ดูกันเอาเองนะคะ ^^

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การผลิตลูกอม ><"

หลายคนคงสงสัยกันว่า ลูกอมที่ เราทานกันอยู่ในทุกๆวันนี้มีวิธีการทำอย่างไร อะไรอยู่ในนั้นบ้าง วันนี้ ที่บล็กของเรามีคำตอบ จ้าๆๆๆ ^^

ลูกอมที่เราทานกัน ทุกวันนี้ แยกใหญ่ๆได้  2 ชนิด คือ
                  1. ลูกอมชนิดแข็ง ( hard boiled candy ) เช่น ฮอลล์ , โอเล่
                  2. ลูกอมชนิดอ่อน ( soft boiled candy ) เช่น ซูกัส , คูก้า            ซึ่งสามารถเคี้ยวได้


          ความจริงลูกอมยังแบ่งออกได้อีกหลายชนิด แล้วแต่จะใช้หลักการแบ่งอย่างไร เป็นหลัก แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะลูกอมชนิดเม็ดแข็งก่อน  ลูกอมชนิดนี้ที่ขายตามท้อง ตลาด มักจะมีส่วนประกอบสำคัญอยู่ไม่กี่อย่าง ได้แก่ น้ำตาลทราย , แบะแซหรือน้ำเชื่อม กลูโคส , กรดซิตริก ( citric acid ) สำหรับปรับรสเปรี้ยว และสารสังเคราะห์ที่ใช้ ปรุงแต่งสี กลิ่น รส ให้เป็นลูกอมรสต่างๆ
          ส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้จะได้รับการผสมและเคี่ยวให้เข้ากันตามลำดับขั้นตอน ส่วนจะใช้อะไรมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสูตรผสมของแต่ละยี่ห้อ แต่มีส่วนผสมบางชนิดถ้า ใช้มากเกินไปจะมีผลไม่ดีต่อลูกอม
เช่น แบะแซ และกรด  ถ้าใช้แบะแซมากเกินไปจะทำ ให้ลูกอมเก็บไว้ได้ไม่นาน และเยิ้มแฉะ เพราะแบะแซดูดความชื้นได้ง่าย
           ส่วนกรดซิตริก นั้นถ้ามากไป กรดจะทำไห้น้ำตาลทรายบางส่วนแตกตัว กลายเป็นน้ำตาลประเภทหนึ่ง ที่ เรียกว่า น้ำตาลอินเวอร์ส ( inverted sugar ) ซึ่งจะดูดความชื้นได้ดีมาก ทำให้ลูกอม ที่เก็บไว้นานๆ เกิดการนิ่มเละเช่นกัน ดังนั้นลูกอมชนิดแข็งจึงต่างจากลูกอมชนิดอ่อน ซึ่ง ต้องการเนื้อลูกอมที่อ่อนนุ่มกว่าและเคี้ยวได้ จึงใส่แบะแซมากกว่า และยังใส่ไขมันช่วยให้ ลูกอมอ่อนตัวด้วย
            สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการผลิตลูกอมชนิดแข็ง ก็คือ บรรจุภัณฑ์ หรือที่นิยม เรียกกันว่า กระดาษห่อลูกอม เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นผ่านเข้าไปยังเนื้อลูกอม ภาชนะที่ ใช้ห่อหุ้มตัวลูกอมนั้นอาจทำจากวัสดุได้หลายอย่างไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษเพียงอย่างเดียว เช่น อาจใช้กระดาษเซลโลเฟน , พลาสติก ( โพลีเอทิลีน หรือโพลีโพรพิลีน ) รวมทั้งพวก ฟิล์มพลาสติกเคลือบด้วยโลหะที่เห็นเป็นสีเงินเงาๆ วัสดุเหล่านี้จะมีสมบัติยอมให้ความชื้น แสง และก๊าซผ่านได้แตกต่างกัน ถ้ากันความชื้นได้ดีย่อมแน่นอนว่าลูกอมยี่ห้อนั้นจะเก็บ ได้นานโดยไม่เยิ้มแฉะ หรืออ่อนนิ่มไปเสียก่อน นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ลูกอมยังทำหน้าที่ ป้องกันการปนเปื้อนของฝุ่นละออง แมลง เชื้อจุลินทรีย์ และยังช่วยรักษาสี กลิ่นของลูกอม ไม่ให้ซีดจางลงก่อนเวลาอันสมควรอีกด้วย นอกเหนือจาการใช้โฆษณาและตกแต่ง ให้ สินค้าลูกอมมีความสวยงามเด่นสะดุดตาผู้บริโภคได้อีกด้วย