วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

10 อันดับลูกอมที่น่ารังเกียจที่สุด -0-

 ใครว่าลูกอมที่เราทานกันจะมีแต่ สี กลิ่น รสชาด และรูปร่างที่น่ากิน  ยังมีลูกอมอีกหลายประเภทที่เราๆยังไม่รู้ว่ามันมีอยู่จริง วันนี้บล็อกของเราจะมี 10 อันดับลูกอมที่น่ารังเกียจที่สุดมาให้เห็นกันนะคะ^^

10 Ear Wax Candy: อมยิ้มขี้หู

Ear Wax Candy: อมยิ้มขี้หู เชื่อว่าหลายๆท่านสมัยเป็นเด็กเคยแคะขี้มูกมากิน หรือบางท่านโตแล้วทำงานแล้วก็ยังมีนิสัยนี้อยู่? .... แต่ผมว่าคนที่ชอบแคะขี้หูมากินก็ยังมีน้อยกว่านะเพราะมันลำบากกว่าแคะขี้มูก มากเลย เพราะฉะนั้นมีคนเค้าอำนวยความสะดวกให้คุณแล้ว โดยที่อมยิ้มนี้มาในบห่อเป็นรูปหูอย่างดี มีไซรับอยู่ตรงกลางที่เปรียบเสมือนรูหู พร้อมด้วยแท่งพลาสติกที่ทำเหมือนไม้แคะหูเพื่อที่จะได้ให้อารมณ์ในการแคะขี้ หูมากินสุดๆ วิธีกินก็ง่ายมากๆ เอาไม้ไปปั่นๆตรงไซรับแล้วก็เอามาดูดได้เลย...




9 Candy Scrabs: ท็อปฟี่พลาสเตอร์ปิดแผล

Candy Scrabs: ท็อปฟี่พลาสเตอร์ปิดแผล เด็กซนคือเด็กฉลาด เพราะฉะนั้นเด็กในอเมริกาจึงซนกันเกือบทุกคน (จริงรึเปล่า อิอิ) ทำให้ทุกคนเวลาเล่นก็จะมีแผลถลอกปอกเปิก แล้วโดยนิสัยเด็กเวลาเลือดไหลซิบๆก็ชอบเลีย...คุณก็เป็นหรือเปล่า!!?... เพราะฉะนั้นหากรสชาติเลือดมันไม่อร่อยแต่คุณอยากจะเลียแผลแล้วจะทำยังไงหละ! โอวววว โรคจิตมากๆ...ก็ซื้อขนมนี้เลยแล้วกัน เอาไปติดที่แขน พอลอกพลาสเตอร์ออกมาก็จะมีเจลรสสตอเบอรี่ให้คุณเลียๆๆๆๆ




8 Dubbel Zout: ยาไอซ์ปลอม

Dubbel Zout: ยาไอซ์ปลอม เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า เราคงเคยเห็นเบียร์ปลอมของญี่ปุ่นกันแล้วที่จริงๆมันคือน้ำ apple ที่มีฟองเหมือนเบียร์ หรือของพี่ไทยเราที่มีหมากฝรั่งแมวดำที่ทำเหมือนบุหรี่ เพราะฉะนั้นในอนาคตถ้าจะติดยาไอซ์ก็ต้องฝึกกันตั้งแต่เด็กๆเลย! นี่คือยาไอซ์จำลอง ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือลูกอมรสชะเอมนั่นเอง แต่ทำให้มันดูเหมือนยาไอซ์ (เพื่ออะไรเนี่ย!?)




7 Hotlix Candy: เลียไป เสียวไป

Hotlix Candy: เลียไป เสียวไป ที่เมืองไทยอมยิ้มแบบนี้เคยฮิตมาก่อนแต่ตอนนั้นจะเป็นหนอน นี่มาแนวใหม่เอาแมงป่องมายัดซะเลย ก็อยากรู้เหมือนกันจะมีซักกี่คนที่กล้าอมจนถึงตัวแมงป่อง อิอิ




6 Gorilla Boogers: ขี้มูกกอริล่าแสนอร่อย

Gorilla Boogers: ขี้มูกกอริล่าแสนอร่อย บ ห่ออันน่ารัก และแฝงไปด้วยความแปลกก็หนีไม่พ้นญี่ปุ่น นี่คือขนมขี้มูกกอริล่าซึ่งเปรียบกับของไทยก็จะมีลูกอมชื่อ ขี้ไคลจี้กง มีใครเคยได้ยินมั้ยเอ่ย? ทั้งสองอย่างก็ไม่ได้ทำมาจากของในชื่อมันจริงๆ ขี้มูกกอริล่านี้ทำมาจากถั่วดำตากแห้งนั้นเอง ลักษณะมันคงจะคล้ายเวลาเราเคี้ยวลูกเกด มันจะหนึบๆ หวานๆ อร่อยๆ คาดว่าเด็กญี่ปุ่นจะชอบกอริล่าพอสมควรโดยที่ไม่รู้จะผลิตอะไรมาเอาใจเลยทำ ขี้มูกออกมาขายซะเลย



5 Ant Candy: ลูกอมมด

Ant Candy: ลูกอมมด ชิ้นนี้ก็เหมือนอมยิ้มแมงป่องข้างบน ตอนเคี่ยวน้ำตาลพอได้ที่ก็จับมดโยนๆลงไปในหม้อแล้วเอามาใส่แม่พิมพ์เอามาขาย เรา....อิอิอิ แบบนี้นั่งบี้มดบนโต๊ะกินเล่นก็ได้ไม่ต้องไปเสียเงิน





4 Jane-Jane Tasty Tuna tidbits: ลูกอมรสทูน่า

Jane-Jane Tasty Tuna tidbits: ลูกอมรสทูน่า หลังจากนั่งหาเหตุผลว่าทำไมต้องทำลูกอมรสปลาทูน่ามาถึง 3 วัน ก็ยังคิดหาเหตุผลดีๆไม่ได้ว่าอะไรดลใจให้คนผลิตคิดจะทำลูกอมรสนี้ หรือจะเป็นเจ้าของโรงงานปลากระป๋องต้องการแตกไลด์สินค้า? ส่วนประกอบที่เขียนไว้ที่ห่อก็พื้นมากๆ ปลาทูน่า 30% น้ำตาล 70% จบ...

3 Crick-Ettes: จิ้งหรีดเคลือบซาวครีมและหัวหอม

Crick-Ettes: จิ้งหรีดเคลือบซาวครีมและหัวหอม หลังจากมาเที่ยวเมืองไทยและได้ลองเมนูแมลงที่ถนนข้าวสารไป ไอเดียก็บรรเจิดทันทีเพราะแค่ฉีดแม็กกี้มันไม่อร่อยเท่าไหร่ เอาไปเคลือบซาวครีมและหัวหอมแล้วทำขายเลยดีกว่า ถูกปากฝรั่งกว่าเยอะ!!! หลังจากทำออกมาขาย ยอดขายก็ยังโดน Pringles ทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่นอยู่ดี




2 Durian Candy: ลูกอมทุเรียน

Durian Candy: ลูกอมทุเรียน มันน่าน้อยใจยิ่งนักที่ราชาแห่งผลไม้ของไทยเราได้มาอยู่อันดับที่ 2 ของโผลูกอมน่าขยะแขยง!!! มีนักวิจารณ์อาหารชาวต่างชาติวิจารณ์รสชาติของทุเรียนหมอนทองและก้านยาวไว้ ว่า "เพียงแค่ได้กลิ่นก็เหมือนคุณได้กลิ่นขี้ของหมูที่เอาไป คลุกกับหัวหอมใหญ่เน่าแล้วเอาไปยัดลงถุงเท้าออกกำลังที่ไม่ได้ซักมา 3 เดือน!" เฮ้ย! มันขนาดนั้นเลยหรอ!!!





1 Beanboozled: Jelly bean กลายพันธุ์

Beanboozled: Jelly bean กลายพันธุ์ Jelly bean นี่เอง เมืองไทยก็มีขายให้เกลื่อน อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง แต่ทำไมมันน่าขยะแขยงที่สุดนะหรอ!? อย่าดูถูกมันถ้าคุณแกะกล่องแล้วเพิ่งกินไปได้ 2-3 เม็ดเพราะทุกกล่องจะแฝงไปด้วยรสชาติพิเศษที่แสนจะชวนอ้วกแตก เช่น รสตดสกังค์, รสชีสเน่าเฟะ, รสกระดาษเช็ดก้นเด็กที่ใช้แล้ว, รสไข่เน่า, รสอ้วก ฯลฯ ขอหยุดตรงนี้ก่อนเพราะแทบอ้วกแล้วเนี่ย ขอบอกว่ารสชาติแปลกๆที่กล่าวมานี้ทำได้เหมือนมากๆ ไม่เชื่อลองชิมดู แต่อย่าถามว่าแล้วเค้าทำรสชาติพวกนี้ได้ยังไง!? เพราะคำตอบที่ได้อาจจะทำให้คุณกลืนไม่ลง หึหึ

ใครชอบ ใครอยากลองแบบไหนก็ลองไปหารซื้อทานกันได้นะคะ( อ้วกกกกกกกกกกกก =0=)

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ ของลูกอม ^o^

หลายคนอาจจะมองว่าวัตถุให้ความหวานก้อนเล็กๆสีสันสดใส ที่มีชื่อเรียกว่า"ลูกอม" ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรแต่หากดูจากผลวิจัยต่อไปนี้คุณคงจะต้องเปลี่ยนความคิดเลย แหละค่ะ โดยผลวิจัยนี้ เป็นการทำวิจัยของ ดร.แครอล โอนีล ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ จากมหาวิทยาลัยรัฐหลุยเซียน่า สหรัฐอเมริกา ทำวิจัยเด็กชายหญิงวัย 2-18 ปี จำนวนกว่า 1 หมื่นคน เป็นเวลานาน 5 ปี ปรากฏว่า เด็กๆ ที่ชอบกินลูกอม ลูกกวาด อมยิ้ม และขนมหวานในลักษณะเดียวกันนี้ จะมีความเสี่ยงต่อโรคอ้วนน้อยกว่าเด็กที่ไม่ชอบกิน ถึงร้อยละ 22 และยังมีแนวโน้มรูปร่างผอมเพรียวกว่าเด็กทั่วไปมากถึงร้อยละ 26 เพราะเมื่อเด็กๆ ได้รับลูกกวาดในปริมาณที่เหมาะสม พวกเขาจะเรียนรู้วินัยการกิน ไปพร้อมๆ กับการอดออมรางวัลรสหวานแสนอร่อย ไว้กินในโอกาสพิเศษเท่านั้น เด็กๆ จึงคุ้นเคยกับการควบคุมอาหารนั่นเอง

แต่ทั้งนี้เราทุกคน ก็ควรที่จะกินลูกอมอย่างพอเหมาะ เพราะอย่างไรแล้วลูกกวาดก็ผลิตมาจากน้ำตาล ยิ่งกินมากก็ยิ่งเสี่ยงฟันผุได้ง่ายๆ แน่นอน^^

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ลูกอมทายนิสัยได้นะ (>_<)


มันเป็นเหมือนความเชื่อ หลักการ หรือ อะไรซักอย่าง ในเรื่องการทานลูกอม ใครจะไปรู้ว่า รสของลูกอมที่เราเลือกทานกันนั้น สามารถบอกถึงนิสัยของคนที่ทานได้ด้วย เราลองมาดูกันซิว่าคนสนิทชิดใกล้ข้างกายของเราเป็นคนแบบไหนมองโลกในแง่ดีหรือมองโลกในแง่ร้าย
โดยการทายนิสัยจากรสผลไม้ของลูกอมที่เขาและคุณชื่นชอบ
  • รสสตรอเบอรี่บอกเลยว่าคุณเป็นคนคุยสนุกอารมณ์ขันและเป็นที่ต้องการของเพื่อนเมื่อจะพูดหรือทำอะไรก็ต้องมีคนดูคนฟังและค่อนข้างมีรสนิยม
  • รสส้มเป็นคนที่ทันสมัยหัวก้าวหน้าแต่มีนิสัยหึงหวงเพศตรงข้ามประหยัดใช้จ่าย
  • รสองุ่นมีมนุษย์สัมพันธ์ดีเข้ากับคนง่ายร่าเริงสุขุมแต่ปากกับใจไม่ตรงกันซื่อสัตย์
  • รสสับปะรดเป็นคนที่ชอบแคร์คนอื่นมากเกินไปจนลืมสนใจตัวเองบางครั้งมัวแต่เอาใจคนอื่นจนทำให้เขารำคาญ
  • รสแอปเปิ้ลเป็นผลไม้สำหรับคนขี้เหงาขาดเพื่อนไม่ได้ไม่ค่อยแคร์เรื่องความรักแต่จะขาดทุนเรื่องการทำงาน
  • รสลิ้นจี่เป็นคนชอบทำงานเบาๆแต่มีความรับผิดชอบในการทำงานเป็นอย่างดี
  • รสบ๊วยร่าเริงแจ่มใสสนุกสนานแต่ลึกๆเป็นคนละเอียดอ่อนง่ายๆสบายๆแต่ชอบให้คำปรึกษาผู้อื่นเสมอ
  • รสมะนาวเหมาะกับสาวเปรี้ยวมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามและเจ้าชู้นิดๆชอบความท้าทายแต่ก็แอบหวานบ้างในบางครั้ง
  • รสสละชอบช่วยเหลือคนอื่นขี้เกรงใจและมีความอดทนสูงโอบอ้อมอารียิ้มได้ในทุกสถานการณ์
  • รสบลูเบอรี่เป็นคนที่หวานข้างนอกแต่จริงแล้วในใจแข็งอ่อนไหวต่อคำพูดของคนรอบข้างรักสงบจิตใจดี
  • รสเมลอนใจกว้างอ่อนโยนมีน้ำใจกับมิตรสหายชอบอะไรง่ายๆมองโลกในแง่ดีแต่มักแพ้ภัยเพศตรงข้าม
  • รสกล้วยเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีภายนอกแข็งแกร่งแต่จริงแล้วอ่อนไหวง่ายรักสันโดษชอบทำบุญถ้ามีโอกาส
  • รสมะขาม อุดมการณ์ มีความคิดเป็นของตัวเองและคิดว่าผู้อื่นจะต้องกระทำตามที่ตนคิด เอาการเอางานและมีความรับผิดชอบสูง
ตรงไม่ตรงก็ดูกันเอาเองนะคะ ^^

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การผลิตลูกอม ><"

หลายคนคงสงสัยกันว่า ลูกอมที่ เราทานกันอยู่ในทุกๆวันนี้มีวิธีการทำอย่างไร อะไรอยู่ในนั้นบ้าง วันนี้ ที่บล็กของเรามีคำตอบ จ้าๆๆๆ ^^

ลูกอมที่เราทานกัน ทุกวันนี้ แยกใหญ่ๆได้  2 ชนิด คือ
                  1. ลูกอมชนิดแข็ง ( hard boiled candy ) เช่น ฮอลล์ , โอเล่
                  2. ลูกอมชนิดอ่อน ( soft boiled candy ) เช่น ซูกัส , คูก้า            ซึ่งสามารถเคี้ยวได้


          ความจริงลูกอมยังแบ่งออกได้อีกหลายชนิด แล้วแต่จะใช้หลักการแบ่งอย่างไร เป็นหลัก แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะลูกอมชนิดเม็ดแข็งก่อน  ลูกอมชนิดนี้ที่ขายตามท้อง ตลาด มักจะมีส่วนประกอบสำคัญอยู่ไม่กี่อย่าง ได้แก่ น้ำตาลทราย , แบะแซหรือน้ำเชื่อม กลูโคส , กรดซิตริก ( citric acid ) สำหรับปรับรสเปรี้ยว และสารสังเคราะห์ที่ใช้ ปรุงแต่งสี กลิ่น รส ให้เป็นลูกอมรสต่างๆ
          ส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้จะได้รับการผสมและเคี่ยวให้เข้ากันตามลำดับขั้นตอน ส่วนจะใช้อะไรมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสูตรผสมของแต่ละยี่ห้อ แต่มีส่วนผสมบางชนิดถ้า ใช้มากเกินไปจะมีผลไม่ดีต่อลูกอม
เช่น แบะแซ และกรด  ถ้าใช้แบะแซมากเกินไปจะทำ ให้ลูกอมเก็บไว้ได้ไม่นาน และเยิ้มแฉะ เพราะแบะแซดูดความชื้นได้ง่าย
           ส่วนกรดซิตริก นั้นถ้ามากไป กรดจะทำไห้น้ำตาลทรายบางส่วนแตกตัว กลายเป็นน้ำตาลประเภทหนึ่ง ที่ เรียกว่า น้ำตาลอินเวอร์ส ( inverted sugar ) ซึ่งจะดูดความชื้นได้ดีมาก ทำให้ลูกอม ที่เก็บไว้นานๆ เกิดการนิ่มเละเช่นกัน ดังนั้นลูกอมชนิดแข็งจึงต่างจากลูกอมชนิดอ่อน ซึ่ง ต้องการเนื้อลูกอมที่อ่อนนุ่มกว่าและเคี้ยวได้ จึงใส่แบะแซมากกว่า และยังใส่ไขมันช่วยให้ ลูกอมอ่อนตัวด้วย
            สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการผลิตลูกอมชนิดแข็ง ก็คือ บรรจุภัณฑ์ หรือที่นิยม เรียกกันว่า กระดาษห่อลูกอม เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นผ่านเข้าไปยังเนื้อลูกอม ภาชนะที่ ใช้ห่อหุ้มตัวลูกอมนั้นอาจทำจากวัสดุได้หลายอย่างไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษเพียงอย่างเดียว เช่น อาจใช้กระดาษเซลโลเฟน , พลาสติก ( โพลีเอทิลีน หรือโพลีโพรพิลีน ) รวมทั้งพวก ฟิล์มพลาสติกเคลือบด้วยโลหะที่เห็นเป็นสีเงินเงาๆ วัสดุเหล่านี้จะมีสมบัติยอมให้ความชื้น แสง และก๊าซผ่านได้แตกต่างกัน ถ้ากันความชื้นได้ดีย่อมแน่นอนว่าลูกอมยี่ห้อนั้นจะเก็บ ได้นานโดยไม่เยิ้มแฉะ หรืออ่อนนิ่มไปเสียก่อน นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ลูกอมยังทำหน้าที่ ป้องกันการปนเปื้อนของฝุ่นละออง แมลง เชื้อจุลินทรีย์ และยังช่วยรักษาสี กลิ่นของลูกอม ไม่ให้ซีดจางลงก่อนเวลาอันสมควรอีกด้วย นอกเหนือจาการใช้โฆษณาและตกแต่ง ให้ สินค้าลูกอมมีความสวยงามเด่นสะดุดตาผู้บริโภคได้อีกด้วย

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประเภทของลูกอม*0*

ลูกอมแบ่งตามลักษณะทางกายภาพได้ 3 ประเภท คือ
  1. ลูกกวาด (Hard candy) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะแข็ง เมื่อเคี้ยวจะแตก อาจมีการ
    สอดไส้ด้วยก็ได้ ซึ่งผลิตโดยการละลายน้ำตาล กลูโคสไซรัป น้ำ นำมาเคี่ยวจนได้ที่
    นวดผสมกัน แล้วรีดอัดเป็นเม็ด
  2. ขนมเคี้ยว (Chewy candy) ได้แก่ คาราเมล (Caramels) ท๊อฟฟี่ ลักษณะจะนิ่มจน
    ถึงค่อนข้างแข็ง ผลิตโดยการนำน้ำตาลกลูโคสไซรัป น้ำ ไขมัน หรือส่วนประกอบอื่น
    ปั่นให้เข้ากันจนมีลักษณะเป็นอิมัลชั่นก่อน จึงนำมาเคี่ยวจนได้ที่ นวดผสม และรีด
    อัดเม็ด
  3. ซอฟต์แคนดี้ (Soft candy) ได้แก่ ครีม (Creams), ฟัดส์ (Fudges), มาร์ชแมลโล
    (Marshmallow) ผลิตภัณฑ์จะมีลักษณะนิ่มอ่อนตัวมากกว่าขนมเคี้ยว เนื่องจากมี
    ปริมาณความชื้นมากกว่า